วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

นโปเลียน ( Napoléon )

                                 ทวีปยุโรปในปี ค.ศ. 1815  เป็นปีที่มีการประชุมที่กรุงเวียนนา  ซึ่งมีจุดมุ่งหมายที่จะจัดการกับประเทศฝรั่งเศสและดินแดนที่เคยตกเป็นของฝรั่งเศสเมื่อครั้งที่นโปเลียนมหาราชได้ครอบครองยุโรปอยู่เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงยิ่งใหญ่มาก  ดังนั้นขอกล่าวถึงประวัติของนโปเลียนมหาราชพอสังเขปและเท้าความการรวมตัวของประมุขของทวีปที่รวมตัวกันต่อสู้กับฝรั่งเศสของนโปเลียน 



ประวัตินโปเลียนมหาราช

         นโปเลียน  โบนาปาร์ต(Napoleon  Bonaparte.  ประสูติวันที่  15  สิงหาคม  ค.ศ.  1769  สวรรคต  5  พฤษภาคม  ค.ศ. 1821)  ประสูติที่เกาะคอซิกา  ซึ่งในตอนนโปเลียนประสูตินั้นเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส  บรรพบุรุษของพระองค์เป็นพวก Ajaccio  พระมารดาเลติเซียพระชนมายุ  19  ชันษา  สวยงามและแข็งแรง  พระบิดาคาร์โลพระชนมายุได้  22  ชันษา เป็นคนมีเสน่ห์  เป็นนักสู้  และเป็นทนายความ  บรรพบุรุษมาจากครอบครัวที่เป็นอิตาเลียนถึง  2  ศตวรรษ  พูดและแต่งกายเป็นอิตาเลียนกันทั้งครอบครัว  เมื่อมีพระชนมายุได้  9  ชันษา  นโปเลียนทรงถูกส่งไปฝรั่งเศสเพื่อเรียนหนังสือกับจูเซปโจเซฟพี่ชาย  นโปเลียนทรงเข้าเรียนที่  Royal  Military  School  of  Brienne  ในชองปาญ(Champagn)  เรียนโดยได้รับการอุปถัมภ์จากราชสำนัก  เรียนอยู่ที่นี่  5  ปี  นโปเลียนทรงเป็นคนขี้อาย  และค่อนข้างจะเก็บตัวเล็กน้อย  นโปเลียนทรงสำเร็จออกมาเป็นนายทหารที่  Ecole  Militaire ในกรุงปารีส  ในขณะที่มีพระชนม์เพียง  16  ชันษา  ในปี  ค.ศ.  1785  พระองค์ทรงได้รับความขมขื่นพระทัยในบ้านเกิดเมืองนอนที่ต้องตกเป็นของฝรั่งเศสก่อนที่จะทรงประสูติเพียงปีเดียวเรื่องราวที่ชาวเกาะคอร์ซิกาต้องต่อสู้เพื่อเอกราชของตนนั้นตรึงพระทัยนโปเลียนมาก  เมื่อทรงเข้าเรียนในโรงเรียนนายร้อยนั้น  นโปเลียนชนมายุ  10  ชันษา  พระองค์ได้รับความคับแค้นพระทัยเพราะเพื่อนฝูงล้อเลียนว่าเป็นคนบ้านนอก  ตัวเล็กพูดไม่ชัด  และเพราะทรงแค้นพระทัยที่ชาวเกาะคอร์ซิกาต้องพ่ายแพ้แก่ฝรั่งเศส  นโปเลียนจึงหันไปมุทางการเรียนหนังสือ  ทรงพระอักษรมาก  เมื่อการปฏิวัติใหญ่ในปี  ค.ศ.  1789  เกิดขึ้น  ในหมู่นายทหารก็แบ่งเป็นพวกที่ภักดีต่อกษัตริย์ฝรั่งเศส  กับพวกหนึ่งเป็นฝ่ายปฏิวัติ  นโปเลียนเข้าอยู่ฝ่ยปฏิวัติ  เนื่องจากทรงฉลาดพอที่จะมองออกว่าผู้ชนะดีอย่างใด  โดยทรงเขียนจดหมายถึงพี่ชายว่า  “I see  only  one  thing  clear;I  must  keep  on  the  right  side  of  those  who  have  been  and  can  be  my friends.”  และได้ทรงพยายามให้คอร์ซิกากู้เอกราช  โดยทรงพยายามที่จะเป็นผู้นำ  แต่ทำไม่สำเร็จ  นโปเลียนทรงเป็นร้อนตรีในนายทหารปืนใหญ่  และอยู่ในพรรคจาคอแบง(Jacobin)  ทรงชอบการปฏิวัติ  นโปเลียนทรงแสดงผลงานที่เยี่ยมยอดสำคัญๆหลายครั้ง  เช่น  การตีเมืองลูตอง(Toulon)  จากกองทัพอังกฤษและการป้องกันสภาเวนชั่นที่  Tuileries  palace  ที่รัฐบาลฝ่ายปฏิวัติใช้เป็นที่ประชุมเอาไว้ได้ด้วยการสั่งให้ลูกน้องสาดกระสุนเข้าใส่ฝูงชนที่กลุ้มรุมเข้ามาจะทำร้ายที่เรียกว่า  a  whiff  of  grapeshot ความดีความชอบนี้ทำให้นโปเลียนทรงได้เลื่อนยศเป็นนายพลด้วยวัยเพียง  27  ปี  และมีชื่อเสียงไปทั่วกรุงปารีส  ทรงเป็นเพื่อนกับน้องชายของมกซิมิเลียน  โรเบียสปีแอร์(Maximilien  Robespierre.  ค.ศ.  1758-1794)  หัวหน้าของพรรคจาคอแบง  ดังนั้นเมื่อโรเบียสปีแอร์ถูกกิโยตีนในวันที่  28  กรกฎาคม  ค.ศ.  1794  นโปเลียนเลยเกือบถูกประหารชีวิต  แต่ก็โชคดีที่ทรงติดคุกอยู่เพียง  2 ปี เนื่องจากการที่นโปเลียนได้ติดพันแม่ม่ายลูกติด  2  คน[ลูกติดชื่อ  อูแชน(Eugene)  อายุ  14  ปี  และออร์ตองส์(Hortense)  อายุ  12  ปี]  ซึ่งมีอายุ  33  ปี  มากกว่าเขาถึง  6  ปี  ชื่อโจเซฟฟิน  โบอาเนส์(Josephine  de  Beauharnais. หรือชื่อเดิม  Marie  Josephe  Rose  Taschen  De  La, Pagerie.  ค.ศ.  1763-1814)  ทำให้พระองค์ได้เป็นที่รู้จักแก่พวกสมาชิกไดเร็คตอรี่(The  Directory)  ซึ่งปกครองประเทศฝรั่งเศสในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม  ค.ศ.  1795-เดือนพฤศจิกายน  ค.ศ. 1799  นโปเลียนได้อภิเษกกับโจเซฟฟินในปี  ค.ศ.  1795  สภาชิกสภาไดเร็คตอรี่ได้เห็นความสามารถทางการทหารของนโปเลียนในปี  ค.ศ.  1796  จึงได้แต่งตั้งให้นโปเลียนทรงเป็นแม่ทัพของฝรั่งเศสในการทำสงครามทางตอนเหนือของอิตาลีกับพวกกองทัพสัมพันธมิตรหลังวันอภิเษก  2  วัน  ในเดือนมีนาคม  ค.ศ.  1796  ภายใน  1  ปี(ค.ศ.  1796-1797)  นโปเลียนทรงสามารถขับกองทัพของออสเตรียออกไปได้  นโปเลียนทรงพยายามสร้างความก้าวหน้าให้กับพระองค์ด้วยการทรงไปทำการรบที่อียิปต์  ในปี ค.ศ.  1798  ซึ่ง  ณ  ที่อียิปต์นายทหารฝรั่งเศสชื่อบูชาด์(Bouchard)  ได้นำศิลาจารึกโรเซตต้า(Rosetta  Stone)  มาด้วย  ขณะที่นโปเลียนทรงอยู่ที่อียิปต์  พระองค์ทรงนำกองทหารที่รวบรวมไว้กลับปกรุงปารีสและได้ทรงเข้าทำการพวกสมาชิกสภาเสีย  ได้ทรงประกาศยุบสภาด้วยในวันที่  8  สิงหาคม  ปี  ค.ศ.  1799  นโปเลียนทรงตั้งคณะกงสุลขึ่น  3  คน  (three  provisional consuls)  เป็นผู้บริหารประเทศโดยทรงเป็นกงสุลอันดับหนึ่ง  ต่อมาในปี  ค.ศ.  1802  นโปเลียนทรงยุบตำแหน่งกงสุลอันดับ  2 และ  3  เสียในวันที่  9  และ  10  พฤษภาคม  และได้ตั้งพระองค์เองขึ้นดำรงตำแหน่งกงสุลอันดับหนึ่งตลอดชีวิต  แต่ในปี  ค.ศ. 1804  นโปเลียนได้ทรงยุบตำแหน่งกงสุลอันดับหนึ่งตลอดชีวิตและได้ทรงตั้งพระองค์เองเป็นจักรพรรดิ  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น